1. HOME
  2. Blog
  3. Uncategorized

BLOG

Blog

Uncategorized

แบบไหนดีกว่า ระหว่าง ซ่อมรถbmwอู่ กับ ซ่อมรถbmwห้าง ?

มาดูกันดีกว่าว่าระหว่างซ่อมอู่ กับ ซ่อมห้าง เลือกแบบไหนดีกว่ากัน และมันต่างกันตรงไหนบ้าง? การนำรถเข้าซ่อมอู่ แปลตรงๆ ก็คือ การนำรถเข้าอู่ซ่อมรถยนต์ ทั่วไปนั่นเอง โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน คือ -ซ่อมอู่ในเครือบริษัทประกันภัย -ซ่อมอู่นอกเครือบริษัทประกันภัย ซึ่งการนำรถเข้าซ่อมอู่ในเครือบริษัทประกันภัยนั้น จัดเป็นอู่ซ่อมรถยนต์ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากบริษัทประกันภัย ที่เราได้ทำประกันไว้ เมื่อรถมีปัญหาสามารถนำรถเข้าไปซ่อมในอู่ได้เลย ไม่ต้องสำรองเงินจ่ายก่อนหรือเสียเงินเพิ่มเติมแต่อย่างใด (ตามที่ตกลงกับบริษัทประกันเอาไว้) ส่วนซ่อมอู่นอกเครือบริษัทประกันภัย เป็นอู่ซ่อมรถยนต์ ที่ไม่ได้รับการรองรับจากบริษัทประกันภัย จำเป็นต้องสำรองเงินจ่ายไปก่อน แล้วจึงค่อยนำใบเสร็จไปเบิกกับบริษัทประกันภัย ทีหลัง มาดู ข้อดีและข้อเสีย ของการซ่อมอู่กัน ข้อดีของการซ่อมอู่ ได้แก่ เบี้ยประกันรถยนต์ถูกกว่าซ่อมห้าง มีตัวเลือกอู่ให้เลือกมากมาย ทั้งอู่ใกล้บ้าน หรืออู่ที่มีคนแนะนำ ฯลฯ ไม่ต้องรอคิวนานเหมือนซ่อมห้าง บางครั้งวันสองวันก็ได้รถแล้ว ราคาซ่อมสามารถต่อรองได้ง่ายกว่าซ่อมห้าง ข้อเสียของการซ่อมอู่ ได้แก่ งานซ่อมในบางครั้ง อาจออกมาไม่ดี ไม่เนี๊ย ไม่สมบูรณ์ ฯลฯ อะไหล่ที่ใช้เป็นไปได้ว่า อาจจะไม่ใช่ของแท้ หรืออาจมีการนำอะไหล่เก่ามาเปลี่ยนให้ก็เป็นได้ บางอู่อาจจะไม่รับผิดชอบหรือแก้ไข หลังจากซ่อมเสร็จแล้ว คิดเงินเกินจริง สำหรับซ่อมห้าง คือ การนำรถเข้าไปซ่อมที่ศูนย์บริการ ซึ่งศูนย์บริการทั่วไป มักจดทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือที่เรียกสั้นๆ กันว่า ซ่อมห้าง นั่เอง ส่วนใหญ่คนที่เลือกซ่อมห้าง มักเป็นรถที่ออกมาใหม่ เพราะสามารถมั่นใจได้ว่าเป็นอะไหล่แท้แน่นอน แถมมีการรับประกันการซ่อมอีกด้วย อีกทั้ง ระบบการทำงานที่ได้มาตรฐานและมีประสิทธิภาพ แต่ต้องยอมจ่ายเงินที่แพงกว่าสักหน่อย มาดู ข้อดีและข้อเสีย ของการซ่อมห้างกัน...

กรองอากาศรถยนต์

กรองอากาศรถยนต์ กับการทำให้รถคุณประหยัดน้ำมันได้ดียิ่งขึ้น สาเหตุที่รถยนต์ของเรากินน้ำมันมากกว่าปกติ มีหลายสาเหตุด้วยกัน และหนึ่งในนั้นก็คือ กรองอากาศรถยนต์ ซึ่งการทำงานของกรองอากาศรถยนต์มีอะไรบ้าง การดูแลรักษา การเปลี่ยนกรองอากาศรถยนต์ต้องทำเมื่อไหร่และเปลี่ยนอย่างไร การทำงานของกรองอากาศรถยนต์ กรองอากาศรถยนต์ คือ เครื่องมือดักสิ่งสกปรกหรือฝุ่นละอองต่าง ๆ ที่ลอยมากับอากาศในขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน และกรองอากาศรถยนต์นี่แหละจะเป็นตัวที่กรองสิ่งสกปรกต่าง ๆ รวมถึงฝุ่นละอองก่อนที่จะเข้าไปในระบบของเครื่องยนต์ และลดเสียงของอากาศที่ถูกดูดเข้าไปในเครื่องยนต์อีกด้วย หากรถยนต์ที่เราใช้มาเป็นระยะเวลานานแล้ว “กรองอากาศรถยนต์” จะมีฝุ่นละอองติดสะสมเป็นจำนวนมาก เริ่มอุดตันอากาศที่สะอาดผ่านได้น้อย ทำให้การเผาไหม้ของเครื่องยนต์ไม่สมบูรณ์ ปีกผีเสื้อสกปรก เกิดการสึกหรอ หรือเมื่อเรารู้สึกได้ว่า เริ่มมีอาการเครื่องยนต์มีอาการสั่นผิดปกติ อัตราการเร่งรอบเครื่องยนต์ตื้อๆ ชดเชยรอบไม่ดี กินน้ำมันมากกว่าปกติ มีควันไอเสียสีดำ สาเหตุเพราะมีสิ่งสกปรกหรือฝุ่นละอองเข้าไปในระบบนั้นเอง การตรวจสอบ การทำความสะอาด และ วิธีเปลี่ยนกรองอากาศรถ เริ่มจากเปิดฝากระโปรงรถขึ้นมามองหาต่ำแหน่งของกรองอากาศ จากนั้นปลดตัวล็อคออก ยกฝาครอบกรองอากาศออก เราก็จะเห็นกรองอากาศรถยนต์ (ในปัจจุบันนี้ส่วนมากจะเป็นแบบแห้ง ทำจากกระดาษ เพราะสามารถทำความสะอาดหรือเปลี่ยนใหม่ได้ง่าย และมีน้ำหนักเบา) นำออกมาแล้วทำการเป่าเอาสิ่งสกปรกออก แต่วิธีการเป่านั้นควรเป่าจากด้านตรงกันข้ามกับที่มีฝุ่นละอองเกาะอยู่ เพราะถ้าเราเป่าลมเข้าไปที่มีฝุ่นละอองเกาะอยู่จะยิ่งทำให้ฝุ่นละอองนั้นเข้าไปตันฝังลึกมากยิ่งขึ้น ลมที่ใช้เป่าก็ไม่ควรแรงจนเกินไป จากนั้นสังเกตุดูว่ากรองอากาศ ไม่มีรอยฉีกขาด หรือนำไฟฉายมาส่องตรงกรองอากาศ ถ้าแสงผ่านทะลุไปอีกด้านนึงได้ แสดงว่ายังสามารถใช้งานต่อได้ แต่หากว่าส่องแล้วแสงทะลุผ่านไม่ได้แสดงว่ากรองอากาศรถยนต์นั้น ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแล้ว วิธีเปลี่ยนกรองอากาศรถ ใหม่นั้นขั้นตอนการใส่ก็ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่นำกลับไปไว้ในที่เดิม จากนั้นปิดฝากรองอากาศ สุดท้ายคือล็อคตัวล็อคกลับที่ต่ำแหน่งเดิม กรองอากาศรถยนต์นั้นควรทำความอย่างน้อยจะอยู่ที่ประมาณระยะ 2,000-5000 กิโลเมตร ควรน้ำออกมาเป่าทำความสะอาคสักครั้ง แต่ถ้าเราใช้รถเป็นประจำ หรือวิ่งทางที่เป็นพื้นลูกรังหรือมีฝุ่นละอองมาก ๆ ก็อาจจะทำบ่อยขึ้น ระยะเวลาที่ควรเปลี่ยนไส้กรองอากาศนั้นจะอยู่ประมาณ 1 ปี หรือประมาณ 20,000...

คุณต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนรถยนต์เมื่อไหร่

เราคิดว่ารถยนต์ของเรามีอายุการใช้งานกี่ปีแบบที่ไม่ได้มีปัญหาเลย แต่ก็อย่าลืมว่าบางครั้งรถยนต์ใหม่ ๆ ก็ยังเกิดปัญหาเลย แล้วจะวางใจได้อย่างไรว่ารถยนต์ที่มีอายุการใช้งานจะไม่มีปัญหา เพราะฉะนั้นเราจะต้องมาสังเกตุอาการของรถเราว่ามีความปกติหรือผิดปกติหรือไม่ อย่างไร น้ำมันเครื่องและไส้กรองน้ำมันเครื่อง เคยสังเกตไหมคะว่า ทุก ๆ 5,000 – 10,000 กิโลเมตร คุณจะต้องทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ทั้งนี้ก็เพื่อจะช่วยให้น้ำมันนั้นสามารถหล่อเลี้ยงชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่อยู่ภายในเครื่องยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หัวเทียน สำหรับหัวเทียนนั้น เมื่อไรก็ตามที่มันเริ่มเสื่อม ให้ทราบไว้เลยนะคะว่า รถยนต์จะเริ่มอาการสะดุดตามมา คล้าย ๆ กับรถกระตุกนั่นแหละค่ะ คุณควรที่จะเปลี่ยนหัวเทียนใหม่ทุก ๆ ระยะประมาณ 40,000 กิโลเมตร น้ำมันเกียร์ และไส้กรองน้ำมันเกียร์ เพราะรถยนต์ของคุณนั้นมีการเคลื่อนที่ตลอดเวลา การใช้งานมาก ๆ ก็อาจส่งผลทำให้เกิดการสึกหรอ และเสื่อมสภาพตามมา ดังนั้น เพื่อยืดอายุการใช้งาน อย่าลืมเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์เมื่อรถถึงระยะ 20,000 – 40,000 กิโลเมตรกันนะคะ ผ้าเบรก อีกหนึ่งหัวใจสำคัญของรถยนต์ที่ใช้สำหรับการหยุดรถ เมื่อไรก็ตามที่รถยนต์ของคุณเริ่มมีเสียงดังเอี๊ยด ๆ ขณะเบรกละก็ นั่นเป็นสัญญาเตือนแล้วนะคะว่าให้รีบจัดการเปลี่ยนทันที ไม่งั้นละก็เรื่องใหญ่แน่ ๆ หรือถ้ายังไม่มีอาการ แต่ระยะรถยนต์อยู่ที่ 50,000 – 70,000 กิโลเมตรแล้วละก็ อย่าลืมหาเวลาไปเช็คผ้าเบรก หรือเริ่มสังเกตอาการกันให้ดีนะคะ แบตเตอรี่ ไม่ว่าจะเป็นแบบแห้งหรือแบบเปียก ก็ต้องดูแลและตรวจเช็กกันให้ดี แม้ว่าแบบแห้งจะมีอายุการใช้งานนานกว่า แถมไม่จำเป็นต้องดูแลอะไรมาก แต่ก็มองข้ามไม่ได้นะคะ จะให้ดีละก็หมั่นตรวจเช็กคุณภาพแบตเตอรี่รถยนต์ของคุณทุก ๆ ปีนะคะ ไส้กรองอากาศ หากรถยนต์ของคุณมีสิ่งสกปรกเข้าไปมากนอกจากจะทำให้เครื่องกรองอากาศอุดตันแล้ว ยังทำให้กำลังเครื่องยนต์ลดลง...

บีเอ็ม บางแค เซอร์วิส กับสถานการณ์โควิค-19

🔧💡บริการซ่อมbmw บีเอ็ม ทุกรุ่น ด้วยทีมช่างที่มีประสบการณ์โดยตรง ขอขอบคุณที่มาใช้บริการ บีเอ็มบางแคเซอร์วิส ครับ ยินดีให้บริการโดยทีมงานที่มีประสบการณ์นานกว่า 15 ปี และเครื่องมือเทคโนโลยีทันสมัย เราพร้อมให้บริการทุกท่าน เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทางบีเอ็ม บางแค เซอร์วิส ได้ให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยของลูกค้า เรามีมาตราการเรื่องความปลอดภัยโดยมีเจลล้างมือ และล้างทำความสะอาดสถานที่ เพื่อให้ความมั่นใจกับลูกค้าที่มาใช้บริการ

วิธีการดูแลรถยนต์หน้าร้อน!

การดูแลเรื่องแอร์ แอร์นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เมื่อเข้าถึงหน้าร้อนแล้ว เวลาเราขับรถเวลารถติด ๆ ก็หงุดหงิด ยิ่งถ้าในรถร้อนอีก นี่ไปกันใหญ่เลยนะ เพราะฉะนั้นการดูแลในเรื่องของระบบแอร์ก็สำคัญ เราก็คอยดูเรื่องของระบบน้ำหล่อเย็นให้อยู่ในระดับที่คงที่ นอกจากดูเรื่องน้ำหล่อเย็นแล้ว เราจะต้องใช้แอร์อย่างทะนุถนอม ไม่ควรเปิดแอร์ตอนที่เปิดหน้าต่างรถยนต์ เพราะจะทำให้การทำงานของแอร์ของรถยนต์เรานั้นหนักขึ้น แล้วอายุการใช้งานของแอร์นั้นก็จะสั้นลงนั่นเอง การดูแลยางรถยนต์ เราจะต้องหมั่นเช็คสภาพยางรถยนต์ของเราให้ดี ๆ ยิ่งในช่วงหน้าร้อนนั้น ปัญหาการเกิดยางระเบิดก็มีให้เห็นกันอยู่เยอะ ๆ ยิ่งพวกรถที่บรรทุกของหนัก ๆ ก็มีโอกาสที่จะยางระเบิดได้ง่ายกว่า เพราะฉะนั้นเวลาเราจะเดินทางไปไหนมาไหนไกล ๆ เราจะต้องเช็คสภาพยางรถยนต์ของเราให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน และไม่บรรทุกของหนักจนเกินไปด้วยนะ การดูแลน้ำมันเชื้อเพลิง อย่างที่รู้กันว่าเมื่อสภาพอากาศร้อน ๆ น้ำมันเชื้อเพลิงที่เราเติมนั้น จะมีโอกาสเผาไหม้ไปง่ายกว่า เวลาที่เราขับรถช่วงหน้าหนาว หรืออากาศเย็น ๆ เวลาเราขับรถไปไหนมาไหน วิธีที่จะช่วยป้องกันไม่ให้น้ำมันเชื้อเพลิงของเราระเหยไปเร็ว ก็คือเวลาเราไปจอดรถ เราก็ควรหาที่จอดที่ร่ม ๆ ไม่ควรที่จะจอดรถตากแดด เพื่อให้รถยนต์ของเรารักษาอุณหภูมิเอาไว้ไม่ให้ร้อนเกินไป แล้วระยะเวลาของน้ำมันเชื้อเพลิงทีเ่ราเติมไปก็จะอยู่กับเรานานขึ้นอีกด้วย การดูแลน้ำมันเครื่องรถยนต์ ในเรื่องของน้ำมันเครื่องรถยนต์ในช่วงหน้าร้อนนั้น โอกาสที่จะระเหยก็มีมากกว่าในหน้าหนาว เราต้องคอยหมั่นเช็คน้ำมันเครื่องของเราให้อยู่ในระดับที่พอเหมาะ อย่าให้ลดระดับลงไปต่ำ เพราะอาจจะทำลายเครื่องยนต์ของเราได้ การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องนั้น เราก็ควรที่จะถ่ายน้ำมันเครื่องตามที่ครบกำหนด หรือก็อาจจะเปลี่ยนก่อนกำหนดก็ได้นะจ๊ะ

เปลี่ยนถ่ายน้ำมัน

เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตอนไหนดี !!

ปัญหาที่ใครหลายคนอาจจะเข้าผิด หรือมีความเชื่อผิด ๆ วันนี้ เรามีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับน้ำมันเครื่องมาฝากกัน ว่าควรจะเปลี่ยนตอนไหนดี ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับรถมือใหม่หรือขับมานานแล้ว น้ำมันเครื่องถือว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะการเปลี่ยนถ่าย จากคู่มือที่ในปัจจุบันจะมีระยะการเข้าเช็คหรือเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรวมถึงตรวจเช็คตามระยะ แต่นั้นคือค่าเฉลี่ยที่ทางบริษัทรถยนต์ที่กำหนดมา แต่หากเราใช้รถยนต์เป็นประจำและมีการใช้รอบเครื่องยนต์สูงหรือขับทางไกลบ่อย ๆ ควรจะเช็คน้ำมันเครื่องเป็นประจำหรือตรวจดูทุกวันในตอนเช้าได้ยิ่งดี เพราะการที่ใช้งานรถหนัก ลากรอบเครื่องยนต์สูง (อาจจะเป็นเพราะขับขึ้นลงเขาหรือใช้ความเร็วสูง) จะทำให้น้ำมันเครื่องยนต์มีการเสื่อมสภาพเร็วกว่ากำหนกระยะที่ทางศูนย์บริการได้กำหนดให้เข้าเช็ค แต่ใช่ว่าการไม่เข้าตามระยะกำหนดจะปลอดภัยเสมอไป หากเราไม่ใช่ผู้ที่มีประสบการณ์หรือเป็นช่างที่รู้เรื่องรถยนต์อย่างชำนานญแล้ว การเข้าตามระยะเช็คของศูนย์บริการจะปลอดภัยกว่า เพราะมีการตรวจเช็คในส่วนอื่น ๆ ที่สึกหรออีกด้วย

ซ่อมระบบแอร์บีเอ็ม ซ่อมระบบแอร์bmw

วิธีแก้ไข เมื่อแอร์รถเหม็นอับ

แอร์รถยนต์ ที่มีความสำคัญต่อ ระบบทางเดินหายใจของผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่อยู่ภายในรถ ถ้าปล่อยปะละเลย ไม่ทำความสะอาด กลิ่นเหม็นอับและ ความสกปรก ภายในระบบระบายอากาศนั้น จะส่งผลทำให้ระบบทางเดินหายใจและปอดของเรามีปัญหาแน่นอน มาดูวิธีการดูแลดูแลรักษา เพื่อป้องกันปัญหาเกี่ยวกับแอร์กันเถอะ ปิดระบบความเย็น แล้วเปลี่ยนให้เป็นพัดลม โดยเฉพาะก่อนดับเครื่องยนต์ทุกครั้ง ควรเปิดพัดลมแอร์ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที เพื่อไล่ความชื้นที่ค้างอยู่ในระบบแอร์ออกให้หมด เพราะความชื้นนี่แหละ เป็นตัวการของกลิ่นอับชื้นภายในรถ หากมีเวลา ควรเปิดรถตากแดด เพื่อไล่ความชื้น และกลิ่นอับภายในรถ โดยการเปิดประตูทุกบานทิ้งไว้บ้างอย่างน้อย 2 ชม. ซึ่งวิธีนี้ถือว่าเป็นการไล่กลิ่นอับชื้นที่ดีมากเลยทีเดียว